รับมือกับการอดนอนอย่างไร ไม่ให้ใจ (และกาย) พังพินาศไปกว่านี้

เราทุกคนรู้กันอีกอยู่แล้วว่าการอดนอนมันทรมานแค่ไหน สมัยสาว ๆ (กว่านี้) ที่ยังไม่มีลูก เราอาจจะเคยอดนอนเพื่อทำงานโต้รุ่ง หรือเคยไปปาร์ตี้ยันเช้ากันมาแล้ว แต่ตอนนั้นไม่เหมือนตอนนี้ ในตอนนั้นเราสามารถกลับมานอนชดเชยเอาแรงได้ แต่ตอนนี้ด้วยหน้าที่แม่ ที่ห้ามป่วย ห้ามตาย และห้ามหลับ ทำให้เราแทบจะหาเวลานอนชดเชยไม่ได้เลย และมันก็ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของเราโดยตรงเลยล่ะค่ะ

ขอเล่าประสบการณ์ตรงของตัวเองหน่อยนะคะ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ลูกชายคนเล็กตื่นถี่เสียเหลือเกิน เรียกได้ว่านุชนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ทั้งคืนเป็นเวลาติดต่อกันเกือบเดือน เช้าวันบ้ง ๆ วันหนึ่งขณะขับรถไปส่งลูกชายคนโตที่โรงเรียน นุชก็พบว่าตัวเองแต่งตัวให้ลูกผิดวัน แทนที่จะใส่ชุดนักเรียน ดันใส่ชุดพละให้ลูก ก็เลยวนกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ลูกที่บ้าน เมื่อขับรถออกมาได้ไม่ถึงหน้าปากซอย ก็พบว่า ลืมหยิบถุงเท้าลูกมาด้วย เลยต้องวนกลับไปเอาที่บ้าน เพื่อที่จะพบว่า ไม่ใช่แค่ถุงเท้านะคะที่ถูกลืมทิ้งไว้ ลูกชายคนโตก็นั่งกอดกระเป๋านักเรียนรออยู่ข้าง ๆ ถุงเท้านั่นแหละค่ะ สรุปคือนุชขับรถไปส่งลูกที่โรงเรียน โดยลืมลูกไว้ที่บ้าน!

ความบ้งทั้งหมดนั้น สาเหตุมาจากการอดนอนตัวเดียวเลยค่ะ เมื่อเราอดนอน ร่างกายเราจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ สมองจะไม่สามารถโฟกัสได้ การตัดสินใจจะช้าลง ไม่สามารถจะจดจำอะไรได้ในช่วงระยะหนึ่ง นี่ยังไม่นับรวมจิตใจที่หงุดหงิดง่าย สติหลุดบ่อยๆ และพร้อมจะวีนใส่ทุกคนได้ทุกเมื่อ แม่ ๆ คงพอนึกภาพออก เวลาเราปรี๊ดใส่สามีที่เดินเสียงดังนิดหน่อย หรืออดใจไม่หยุมหัวลูกเวลาไม่ยอมกินข้าวไม่ค่อยจะได้ นั่นแหละค่ะ เป็นเพราะการอดนอนทำให้การควบคุมอารมณ์ของเราน้อยลงตามไปด้วย

วันนี้นุชมีเคล็ดลับการรับมือกับอาการอดนอนมาแชร์ค่ะ เพื่อไม่ให้วันดี ๆ ของแม่ ๆ ต้องพังพินาศไปมากกว่านี้ และไม่ให้เราต้องกลายร่างเป็นนางยักษ์ในสายตาสามีและลูกอีกต่อไป

Tip #1 เริ่มวันใหม่ด้วยน้ำเปล่า

น้ำสะอาด 1 แก้ว หรือ 1 ขวดเต็มๆ นี่แหละค่ะที่จะช่วยบูสพลังงาน super mom ให้กลับมาได้เหมือนเดิม น้ำช่วยให้ระบบเลือดสูบฉีดได้สะดวก และส่งเลือดไปเลี้ยงสมองได้มากขึ้น แล้วยังเพิ่มสารอะดรีนาลีนให้หลั่งมากขึ้นอีกด้วยค่ะ

Tip #2 ขยับเขยื้อนร่างกายให้มากที่สุดในตอนเช้า

เรารู้ดีค่ะว่าเช้าหลังจากการหลับ ๆ ตื่น ๆ นั้นสาหัสแค่ไหน ทั้งมึนหัว ทั้งลืมตาไม่ขึ้น แต่หลังจากดื่มน้ำเปล่าแล้ว คุณแม่ลองขยับร่างกายเร็ว ๆ เช่นวิ่งจ๊อกกิ้งอยู่กับที่ หรือกระโดดตบซัก 30 วินาที หรือไม่ก็เปิดเพลงโปรด แล้วเต้นให้มันส์ไปเลย สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่แอคทีฟขึ้น และพร้อมเริ่มวันใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นมานิดหนึ่ง (ก็ยังดี) ค่ะ

"A yawn is a silent scream, for coffee"

Tip #3 เลือกทานอาหารเช้าที่สู้กับความเหนื่อยล้าได้

อาหารเช้าประเภทโปรตีน (ไข่ หรือเนื้อ) ธัญพืช โยเกิร์ต หรือผลไม้สด เพิ่มความสดชื่นและลดความเหนื่อยล้าได้ค่ะ แถมหาทานได้ง่ายด้วย หากไม่มีเวลาจริง ๆ ไข่ลวกซักใบ หรือโยเกิร์ตซักถ้วยก็ช่วยได้นะคะ

Tip #4 หาเวลาไปสูดอากาศและรับแสงแดดตอนเช้า

แม้จะเพียงนิดเดียวก็ยังดี พาลูกน้อยไปเดินเล่นช่วงเช้าหลังทานอาหารเสร็จ หรือถ้าไม่สามารถจริง ๆ แค่เปิดหน้าต่างรับอากาศและแสงแดด อารมณ์ของคุณแม่จะดีขึ้นทันตาเลยค่ะ

.

Tip #5 เคี้ยวหมากฝรั่งระหว่างวัน

หาหมากฝรั่งมาเคี้ยวระหว่างวัน ช่วยให้สมองตื่นตัวได้ดีเลยนะคะ

Tip #6 หาเวลาหลับตานิ่ง ๆ บ้าง

คำกล่าวที่ว่า “นอนหลับเมื่อลูกหลับ” ไม่มีอยู่จริงในสารระบบคุณแม่ฟูลไทม์ ไหนจะงานบ้าน ไหนจะเวลาทานข้าว ไหนจะชอปปิ้งออนไลน์อีก แต่ถ้าสามารถทำได้ แบ่งเวลาช่วงที่ลูกหลับซัก 5-10 นาที ลองหลับตานิ่ง ๆ เพื่อชาร์ตพลังงานให้ตัวเองดูนะคะ ต่อให้ไม่ได้หลับจริง ๆ แต่ก็เป็นการพักสมองชั่วคราวที่แม่ ๆ ควรทำค่ะ

Tip #7 Let it go!

ปล่อยวางบ้าง ไม่ต้องเป็นคุณแม่ที่สมบูรณ์แบบขนาดนั้นค่ะ งานบ้านรอได้ อาหารก็สั่งเข้ามาได้ ให้เวลากับตัวเองเยอะ ๆ นะคะ

Tip #8 เข้านอนเร็วขึ้น

ปกติแล้วเบบี๋วัย 4 เดือนขึ้นไป มักจะเข้านอนเร็ว (แล้วไปตื่นรัว ๆ กลางดึก) คุณแม่ควรอาศัยช่วงลูกเข้านอน หลับเอาแรงไว้ก่อนค่ะ แม้จะมีซีรีส์ที่อยากดู หรือมีเรื่องที่อยากคุยกับสามี ทุกอย่างรอได้ นอนหลับสะสมให้ร่างกายไว้ก่อนดีกว่านะคะ

Tip #9 อาบน้ำ

บางวันเราอาจจะไม่มีเวลาแม้แต่จะเข้าห้องน้ำ แต่เชื่อไหมคะว่าการอาบน้ำฝักบัวแบบเร็ว ๆ ช่วยให้ร่างกายสดชื่นขึ้นได้เหมือนดีดนิ้วสั่งเลยค่ะ

Tip #10 ให้รางวัลกับตัวเอง

ดื่มกาแฟ ทานของอร่อย ดูซีรีส์ตลก ๆ โทรเม้ากับเพื่อน ทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เราสนุกสนานและสดชื่นขึ้น การอดนอนมันแย่มากพออยู่แล้ว อย่ากดดันตัวเอง หรือจมอยู่กับมันนะคะ เราสมควรได้รางวัลที่ผ่านคืนเหล่านั้นมาได้ ทราบไหมคะว่าหน่วยซีลที่โหด ๆ น่ะ ใช้การอดนอนเป็นหนึ่งในเครื่องมือการฝึกความแข็งแกร่งของร่างกายเชียวนะ แล้วแม่อย่างเรา ๆ ผ่านการอดนอนแบบนั้นมาไม่รู้กี่คืนแล้ว คุณเก่งและทรหดมาก ๆ เลย ให้รางวัลร่างกายตัวเองหน่อยเถอะค่ะแม่

Tip #11 สังเกตุตัวเองตลอดเวลา

ถ้ารู้สึกว่าการอดนอนมันส่งผลกระทบกับร่างกายและจิตใจมากเกินทนไหว จนทำให้มีความคิดไม่ค่อยน่ารัก อย่างทำร้ายตัวเอง ทำร้ายลูก หรือโมโหง่ายไปเสียทุกสิ่ง แนะนำให้พูดคุยเรื่องนี้กับคนที่ไว้ใจได้ หรือพบแพทย์ เพื่อป้องกันไม่ให้การอดนอนกลายเป็นภาวะซึมเศร้าหลังคลอดค่ะ

แล้วคุณแม่จะคิดถึงโมเมนท์นี้ เมื่อมันผ่านไป

คุณแม่ทุกคนต้องเคยประสบการอดนอนมาแล้วทั้งนั้นค่ะ แต่วันหนึ่งมันก็จะผ่านไป วันหนึ่งคุณแม่จะกลับมานอนยาว 8 ชั่วโมงรวดเหมือนเดิม แล้วคุณแม่จะคิดถึงโมเมนท์ตอนตีสามที่ลูกน้อยจ้องมองคุณแม่ด้วยตาแป๋วคู่นั้น โมเมนท์ที่ลูกซบอยู่กับอกคุณแม่ยามค่ำคืน โมเมนท์ที่ไม่มีใครสามารถกล่อมลูกนอนได้นอกจากคุณแม่เท่านั้น เพราะคุณคือคนพิเศษของลูกน้อย คุณคือพื้นที่ปลอดภัยของเขาค่ะ อดทนนะคะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ถ้าต้องการความช่วยเหลือใด ๆ หรือแค่อยากระบาย Little Big Dream อยู่เคียงข้างคุณแม่เสมอค่ะ