top of page

พาลูกขึ้นเครื่องบินอย่างไรให้ลูกหลับสบายตลอดทาง




หยุดยาวที่ผ่านมานี้มีคุณแม่หลายบ้านพาลูกน้อยออกเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรกค่ะ ช่วงนี้หลังไมค์ของนุชจึงมีคุณแม่ถาม (แกมระบาย) มาหลายท่าน ว่ามีเทคนิกในการพาลูกนอนบนเครื่องบินไหมคะ เพราะพาไปมาแล้ว ลูกร้องตลอดทาง แม่เกือบขิตบนเครื่องเลยค่า


แน่นอนว่าการเดินทางบนเครื่องบินกับทารกหรือเด็กเล็กนั้น เป็นหนึ่งในประสบการณ์น่าตื่นเต้นสุด ๆ ของพ่อแม่มือใหม่ มือเก่าทุกคน เราอยากพาลูกเที่ยว แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เกรงใจผู้โดยสารท่านอื่น ๆ หากลูกเราไม่นอน และส่งเสียงกรีดร้องตลอดไฟลท์ แต่นุชมีเทคนิกเล็กน้อย ที่จะทำให้ลูกหลับได้ง่ายขึ้นบนเครื่องบิน เสียดายที่มาคุยเรื่องนี้ช้าไปนิด แต่ยังไงก็ยังมีหยุดยาวรอบหน้าให้แม่ ๆ ได้พาลูกเที่ยวเสมอเนอะ งั้นเรามาดูกันดีกว่าค่ะว่ามีเทคนิกไหนที่จะช่วยให้เจ้าตัวจิ๋วหลับสบายบนเครื่องบิน ให้แม่ได้นั่งชิลล์ได้บ้าง


เลือกเวลาเดินทาง ให้ตรงกับเวลานอนของลูก

อันนี้สำคัญมากค่ะ หากเป็นไฟล์ทสั้น ๆ ซัก 2-3 ชั่วโมง คุณแม่ควรเลือกเป็นเดินทางกลางวัน ให้ตรงกับเวลาแนปของลูก อาจจะกะเวลาให้ขึ้นเครื่องก่อนถึงเวลานอนกลางวันของน้องซักครึ่งชั่วโมง และกะให้ทานนมตอนเครื่องกำลัง take off เป็นการลดอาการปวดหูของลูกไปในตัวค่ะ แต่ถ้าเป็นไฟล์ทยาว แน่นอนว่าควรเลือกเป็นเวลากลางคืน เพื่อให้เมลาโทนินมาเป็นผู้ช่วยในการทำให้ลูกเราหลับได้ง่ายขึ้น แต่ความยากของไฟลท์ยอดนิยมอย่างญี่ปุ่นหรือเกาหลี ที่อยู่ประมาณ 5-6 ชั่วโมง ก็คือหากเลือกเป็นไฟลท์กลางคืน น้องอาจจะหลับได้ไม่เต็มตื่น เพราะเด็ก ๆ มักจะหลับกลางคืนราว 10-11 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ดังนั้นหากคุณแม่เลือกไฟลท์กลางคืนและบินแค่ 5-6 ชั่วโมง แนะนำให้ใช้เป้อุ้มก่อนหรือหลังลงเครื่อง เพื่อให้น้องหลับต่อเนื่องได้นานที่สุดในคืนเดินทางค่ะ


เลือกที่นั่งที่เหมาะสม

สายการบินหลายแห่งมักจะให้ผู้โดยสารที่เดินทางกับเด็กทารก ได้นั่งบริเวณแถวหน้าที่มีที่ยืดขา และมีบริเวณให้ติดตั้งเปลเด็กบนเครื่อง หากเดินทางยาว แนะนำให้คุณแม่ขอเปลเด็ก (baby bassinet) มาติดไว้นะคะ จะช่วยให้ลูกนอนหลับได้ดีขึ้น และคุณแม่ไม่ต้องเหนื่อยอุ้มด้วยค่ะ



รักษา Bedtime Routine ให้เหมือนอยู่บ้าน

การพาลูกนอนบนเครื่องบินนั้น สำหรับเด็ก ไม่ได้แตกต่างจากการนอนที่บ้านเลยค่ะ หากคุณแม่ทำ bedtime routine อย่างสม่ำเสมอที่บ้าน ก็ต้องนำมาใช้ตอนขึ้นเครื่องด้วยนะคะ อาจจะเตรียม baby wipe ขึ้นเครื่องด้วย และใช้เช็ดทำความสะอาดหน้าและเนื้อตัวของลูกแทนการอาบน้ำ ใส่ชุดนอนอุ่น ๆ สบาย ๆ อ่านนิทานให้ลูกฟังบนเครื่อง กอด หอม นวดตัวให้ลูกตามที่เคยทำ และกล่อมนอนเหมือนอยู่บ้านได้เลยค่ะ แม้จะเป็นไฟลท์กลางวัน ก็ควรทำ routine ที่มักจะทำตอนนอนกลางวันที่บ้านด้วยนะคะ


หลีกเลี่ยงอาหารหรือขนมที่มีน้ำตาลสูง

บางทีเราอาจจะให้ลูกทานขนมหรือน้ำผลไม้ที่แอร์พอร์ต หรือทานบนเครื่อง ซึ่งน้ำตาลในขนมและเครื่องดื่มเหล่านี้ มักจะทำให้ลูกของเรา active ในเวลาที่ไม่ควรสุด ๆ (นึกภาพลูกวิ่งไปมาบนเครื่อง ในตอนที่ทุกคนหลับแล้ว) ดังนั้นหลีกเลี่ยงของหวานก่อนขึ้นเครื่องประมาณ 1-2 ชั่วโมงนะคะ


ให้ลูกปล่อยพลังก่อนขึ้นเครื่อง

หลายบ้านกังวลกลัวลูกจะวิ่งวุ่นในแอร์พอร์ต เลยจับใส่เป้ หรือใส่รถเข็น หรือหนักกว่านั้นคือให้นั่งดูหน้าจอยาว ๆ เพราะเกรงใจคนในแอร์พอร์ต แต่ความจริงแล้ว การให้ลูกวิ่งเล่น หรือเล่นเกมส์ที่ต้องขยับตัวเยอะ ๆ ก่อนขึ้นเครื่อง จะช่วยให้ลูกหลับได้ดีขึ้นเมื่ออยู่บนเครื่องบินค่ะ ครั้งหน้า ลองชวนลูกเล่นเกมส์นับเครื่องบิน หรือชวนลูกเดินหรือวิ่งไปดูเครื่องบิน take off ก่อนขึ้นเครื่องดูนะคะ


พยายามทำที่นอนมืด ๆ บนเครื่องบินให้ลูก

เช่นอาจจะเอาผ้าห่มบนเครื่อง มาคลุมเก้าอี้ที่ลูกนอน สร้างเป็นเตนท์เล็ก ๆ ที่บังแสงที่จะเข้ามารบกวนการนอนของลูกได้ แต่ต้องแน่ใจว่าผ้าห่มที่เราเอามากาง จะไม่ไปรบกวนผู้โดยสารท่านอื่นด้วยนะคะ


พกอุปกรณ์ช่วยกล่อมนอนที่คุ้นเคยไปด้วย

ไม่ว่าจะเป็น White Noise จุกหลอก ตุ๊กตาผ้ากอดนอน หรือผ้าห่มผืนโปรดของลูก เพื่อช่วยสร้างบรรยากาศที่ลูกคุ้นเคยและทำให้เขาหลับได้ง่ายมากขึ้นค่ะ


เข้าเต้า

ตัวช่วยสุดวิเศษที่ทำให้ลูกหลับได้ง่ายสุด สำหรับบ้านที่เข้าเต้าเป็นประจำ เมื่อขึ้นเครื่องแล้ว สามารถให้เข้าเต้าได้เลยค่ะ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บหู บรรเทาความหงุดหงิด ตื่นเต้นต่าง ๆ และทำให้หลับได้ง่ายมากด้วย อย่าลืมพกผ้าคลุมให้นมผืนโปรดติดไปด้วย และเข้าเต้าไปได้เพลิน ๆ เลยค่ะ


เดินทางครั้งหน้า อย่าลืมเอาเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้กันนะคะ ขอให้เดินทางราบรื่น สนุกสนาน และได้ประสบการณ์ดี ๆ จากการพาลูกเที่ยวในทุกทริปนะคะคุณแม่

หากคุณแม่สนใจเข้าคอร์สฝึกลูกนอนยาวแบบ Private คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางนี้เลยค่ะ หรือทักมาสอบถามคิวเบื้องต้นได้เลยนะคะคุณแม่

172 views
bottom of page